
ความสับสนเรื่องค่าประสิทธิภาพวัคซีนแต่ละชนิดที่ไม่เท่ากันอาจทำให้หลายคนลังเลที่จะฉีดและไม่มั่นใจว่าวัคซีนที่ได้รับเป็นชนิดที่ดีที่สุดหรือเปล่า คนส่วนใหญ่มักคิดว่าวัคซีนที่มีค่าประสิทธิภาพสูง เช่น Pfizer-BioNTech ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ ๙๕ และ Moderna ร้อยละ ๙๔ มีคุณภาพดีกว่าวัคซีนของ Johnson & Johnson ที่มีค่าประสิทธิภาพร้อยละ ๖๖
ศ. นพ. นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ อธิบายว่า วัคซีนแต่ละชนิดไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เพราะค่าประสิทธิภาพที่มากกว่าหรือน้อยกว่าไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าตัวไหนดีกว่ากัน และมีผลข้างเคียงมากหรือน้อยกว่ากัน เพราะกระบวนการผลิตวัคซีนแต่ละชนิดใช้เทคนิคการผลิตที่ไม่เหมือนกัน ทำการวิจัยในกลุ่มคนที่ต่างกัน ในประเทศที่มีความรุนแรงของการระบาดไม่เท่ากัน ด้วยเหตุนี้จึงเปรียบเทียบกันไม่ได้
ก่อนจะทำความเข้าใจตัวเลขของค่าประสิทธิภาพเหล่านี้ เราต้องเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการฉีดวัคซีนโควิด-๑๙ ก่อน นั่นก็คือการกระตุ้นให้ร่างกายของคุณสร้างภูมิคุ้มกันที่จะช่วยลดโอกาสเสียชีวิตหรือป่วยหนัก และหากคุณติดเชื้อ คุณก็จะป่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหรือไม่ป่วยเลย หรือเลวร้ายที่สุดคือมีอาการปานกลาง วัคซีนโควิด-๑๙ ทุกชนิดในปัจจุบันบรรลุวัตถุประสงค์ที่สำคัญข้อนี้แล้วทั้งหมด กล่าวคือมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียชีวิต องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริการะบุว่าผู้ผลิตวัคซีนโควิดแต่ละรายจะต้องผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพอย่างน้อยร้อยละ ๕๐ หรือผ่านมาตรฐานให้สามารถป้องกันเท่ากับวัคซีนไข้หวัดใหญ่และช่วยชีวิตคนจำนวนมากได้
ค่าประสิทธิภาพของวัคซีนได้มาจากการคำนวณผลการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่ ที่ทดสอบกลุ่มตัวอย่างหลายหมื่นราย โดยแบ่งออกเป็น ๒ กลุ่มเท่าๆ กัน กลุ่มแรกได้รับวัคซีนจริงที่ผลิตขึ้น และอีกกลุ่มหนึ่งได้รับยาหลอก หลังจากนั้น ทั้ง ๒ กลุ่มใช้ชีวิตตามปกติ โดยนักวิทยาศาสตร์ติดตามเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อเก็บข้อมูลการติดเชื้อ
ในการทดลองของวัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค มีผู้เข้าร่วม ๔.๓ หมื่นราย ผลการทดลองปรากฏว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-๑๙ ทั้งหมด ๑๗๐ ราย ผู้ติดเชื้อเหล่านี้เป็นตัวกำหนดค่าประสิทธิภาพของวัคซีน กล่าวคือ ถ้าทั้งกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริง และกลุ่มที่ได้รับยาหลอกมีผู้ป่วย ๘๕ รายเท่ากัน หมายความว่าวัคซีนตัวนี้มีค่าประสิทธิภาพเป็นศูนย์ หรือจะฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีนก็มีค่าเท่ากัน หากทั้ง ๑๗๐ รายอยู่ในกลุ่มยาหลอกทั้งหมด เท่ากับว่าวัคซีนมีค่าประสิทธิภาพเต็มร้อย แต่ผลการทดลองจริงปรากฏว่า มี ๑๖๒ รายที่ป่วยด้วยโควิด-๑๙ ในกลุ่มยาหลอกและมีเพียง ๘ รายอยู่ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนจริงซึ่งคำนวณเท่ากับว่า วัคซีนนี้มีค่าประสิทธิภาพร้อยละ ๙๕ แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนทุกๆ ๑๐๐ ราย จะมีผู้ป่วยติดเชื้อ ๕ ราย จริงๆ แล้วค่าประสิทธิภาพร้อยละ ๙๕ นี้หมายความว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนแต่ละคนจะมีโอกาสป่วยน้อยกว่าผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนถึงร้อยละ ๙๕

วัคซีนทุกตัวมีการคำนวณอัตราประสิทธิภาพของแบบเดียวกัน แต่การทดลองวัคซีนแต่ละครั้งอาจทำในสถานการณ์ที่แตกต่างกันมาก ดร.เดเบอราห์ ฟูลเลอร์ (Deborah Fuller) ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันและไวรัสวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตันชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวกับตัวเลขของค่าประสิทธิภาพนี้ คือช่วงเวลาในการทดลองทางคลินิกของวัคซีนแต่ละชนิด หากทดลองพร้อมๆ กัน ในสถานที่หรือประเทศเดียวกัน ค่าประสิทธิภาพมีแนวโน้มที่จะไม่แตกต่างกัน เช่นในกรณีของวัคซีนโมเดอร์นาและไฟเซอร์-ไบโอเอนเทค ที่ส่วนใหญ่ทดลองในสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้ค่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกันมาก ขณะที่จอห์นสันแอนด์จอห์นสันทดลองในสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกันแต่คนละช่วงเวลา ส่วนการทดลองในประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกาใต้และบราซิลซึ่งมีไวรัสกลายพันธุ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการทดลอง แต่ถึงกระนั้น ผลของการทดลองก็ยังคงออกมาน่าพอใจและช่วยลดอัตราการติดเชื้ออย่างมีนัยสำคัญ
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขประสิทธิภาพเหล่านี้คือการคำนวณในการทดลองไม่ใช่การใช้จริง ค่าประสิทธิภาพจึงไม่ใช่ตัวตัดสินว่าวัคซีนชนิดไหนดีที่สุด ผศ. ดร. อาเมช อาเดเลีย (Amesh Adalia) แห่งสถาบันจอห์นฮ็อปกิ้นส์ กล่าวว่าเป้าหมายของโครงการวัคซีนโควิด-๑๙ ไม่ใช่การลดจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ หากแต่เป็นการทำให้ไวรัสอ่อนกำลังลง จนไม่สามารถทำให้เราป่วยหนักถึงขั้นรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือเสียชีวิต
คำว่า “ประสิทธิภาพ” มีความสำคัญในเชิงทดลอง แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดที่จะใช้ในการเปรียบเทียบวัคซีนแต่ละชนิด และวัคซีนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ณ เวลานี้ คือวัคซีนที่หาได้ในประเทศของคุณ และเป็นความรับผิดชอบของคุณที่ควรจะฉีด เพราะแต่ละเข็มช่วยให้เราเข้าใกล้การยุติการระบาดครั้งนี้ไปอีกก้าวหนึ่ง
อ้างอิง
https://www.thelancet.com/journals/laninf/article/PIIS1473-3099(21)00075-X/fulltext
https://www.nytimes.com/interactive/2021/03/03/science/vaccine-efficacy-coronavirus.html
https://www.scientificamerican.com/article/experts-answer-the-biggest-covid-vaccine-questions1/