รจภ. นำเข้า "โมเดอร์นา" วัคซีนตัวเลือกชนิดที่ ๒ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในปี ๒๕๖๕

๑๔ ก.ย. ๒๕๖๔ | การดู ๑๐๐๓๗ ครั้ง

วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๔​ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ แซดพี เทอราพิวติกส์ (ZP Therapeutics) หน่วยธุรกิจภายใต้ ซิลลิค ฟาร์มา ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำในเอเชีย ในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-๑๙ โมเดอร์นา (Covid-๑๙ Vaccine Moderna) จำนวน ๘ ล้านโดส (๑๐๐ ไมโครกรัม/โดส) เพื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนในปีหน้า โดยจะจัดสรรวัคซีนผ่านองค์กรนิติบุคคลประเภทต่างๆ ตามนโยบายข้อกำหนดของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ คาดว่าการจัดส่งครั้งแรกจะส่งมอบได้ในช่วงไตรมาสแรก ปี ๒๕๖๕ และจะทะยอยส่งจนถึงไตรมาสที่สาม

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นหนึ่งใน ๕ หน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าวัคซีนโควิด-๑๙ ตามประกาศศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) และได้ทำงานอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ และสนับสนุนภารกิจสำคัญในการยับยั้งและลดการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือการช่วยเพิ่มโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-๑๙ โดยเร็วที่สุด ด้วยการนำเข้า จัดสรร และกระจายวัคซีนตัวเลือกไปสู่กลุ่มองค์กรนิติบุคคล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานพยาบาลเพื่อกระจายฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงกลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาสทั่วทุกภูมิภาค นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นด้านการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-๑๙ ในประเทศไทยอย่างเป็นระบบอีกด้วย”

image widget
image widget

“วัคซีนโควิด-๑๙ โมเดอร์นา ที่ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ลงนามสัญญานำเข้ามาเป็นวัคซีนตัวเลือกชนิดที่ ๒ เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อจากการทดลองทางคลินิกในระยะที่ ๓ สูงถึง ๙๔.๑% อาการข้างเคียงอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เช่น อาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง การแพ้รุนแรง พบประมาณ ๒.๕ ราย ต่อ ๑ ล้านโดส หรือรายงานการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบของวัคซีนชนิด mRNA พบน้อย อยู่ที่ ๑๒ ราย ต่อ ๑ ล้านโดสในประเทศสหรัฐอเมริกา และส่วนมากสามารถรักษาได้ นอกจากนี้ ผลการศึกษาเบื้องต้นของการใช้วัคซีนโควิด-๑๙ โมเดอร์นา เป็นเข็มกระตุ้น (Booster Dose ปริมาณขนาด ๕๐ ไมโครกรัม) ต่อสายพันธุ์เบต้า แกมม่า และเดลต้า สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงถึง ๓๒ เท่า, ๔๓.๖ เท่า และ ๔๒.๓ เท่า ตามลำดับ ส่วนการวิจัยในประเทศไทยทางราชวิทยาลัยฯ จะทำควบคู่กันไปเพื่อยืนยันผลกระตุ้นอย่างเป็นระบบในสภาพแวดล้อมของประเทศตั้งแต่ปลายปีนี้ ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีแผนที่จะจัดสรรและกระจายวัคซีนโควิด-๑๙ โมเดอร์นาให้แก่กลุ่มองค์กรนิติบุคคล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงสถานพยาบาล ตลอดจนกลุ่มเปราะบางทางสังคมที่เคยได้รับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มจากทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นกลุ่มแรกก่อน เนื่องจากประชาชนในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนครบ ๒ เข็มตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เป็นต้นมา โดยเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่จะใช้วัคซีนโมเดอร์นาเป็นเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และฉีดเพียง ๑ เข็ม (ปริมาณ ๕๐ ไมโครกรัม) ในช่วงไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๕ ซึ่งจัดเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการฉีดวัคซีนโควิด-๑๙ เข็มกระตุ้น โดยจะเปิดให้องค์กรนิติบุคคลประเภทต่างๆ ยื่นจองขอรับการจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นาในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการกำหนดราคาขาย พร้อมประกันภัยคุ้มครองผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาในราคาเดียวกันทั่วประเทศต่อไป และคาดว่าการจัดส่งครั้งแรกจะส่งมอบวัคซีนได้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นมีนาคมปีหน้า”

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ กล่าวเสริม “สำหรับความร่วมมือกับ ซิลลิค ฟาร์มา ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญและความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง เพื่อช่วยให้ประชาชนได้รับวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเร็วที่สุด และขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพแก่ประชาชนทุกกลุ่มวัยอย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีประสิทธิภาพต่อประเทศชาติ ตามพระปณิธานในศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” 


อ้างอิง

https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/70/wr/mm7004e1.htm
https://www.cdc.gov/vaccines/acip/meetings/downloads/slides-2021-08-30/03-COVID-Su-508.pdf?_trms=a2f2392a6874d4ed.1631284490185

background

ปฏิทินกิจกรรม