ปิดจอก่อนปรับใจ

๑๔ มี.ค. ๒๕๖๔ | การดู ๕๕๐ ครั้ง

image widget


คุณมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คบ่อยหรือเกือบตลอดเวลา แม้ไม่มีธุระสำคัญก็ขอแค่เลื่อนดู Feed บนโซเชียลมีเดีย ต้องเปิดดูทุกๆ ครั้งที่มีแจ้งเตือนไม่ว่าจากแอปไหน ชอบอัพเดทเรื่องราวของตัวเองอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยพลาดโปรโมชั่นพิเศษบนออนไลน์ พฤติกรรมเช่นนี้คืออาการของ “โฟโม”

image widget

“โฟโม” หรือ FOMO ย่อมาจาก Fear of Missing Out คือความหวาดกลัวที่จะพลาดอะไรไป กลัวการตกกระแสหรือกลัวว่าจะตามข่าวล่าสุดที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ไม่ทันจึงเกาะติดโลกโซเชียลตลอดเวลา เพราะต้องการรู้และอยากแชร์ก่อนใคร ซึ่งเป็นความเครียดของคนยุคดิจิทัลที่เสพติดเครื่องมือสื่อสาร

คนไทยใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์โดยเฉลี่ยวันละ ๙ ชั่วโมง ๑๑ นาที กลุ่ม Gen Z หรือช่วงอายุ ๑๒-๒๔ ปี และ กลุ่ม Gen Millennials ที่มีอายุระหว่าง ๒๕-๔๐ ปีมีพฤติกรรม “โฟโม” มากที่สุด โดย Gen Z อยู่ที่ร้อยละ ๖๗ และกลุ่ม Millennials มีร้อยละ ๕๗ เนื่องจากทั้ง ๒ กลุ่มนี้เกิดและเติบโตมาในยุคดิจิทัลจึงคุ้นชินกับการอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีแทบจะตลอดเวลา ส่วนกลุ่ม Gen X หรือคนที่มีอายุระหว่าง ๔๑-๕๖ ปี มีพฤติกรรม “โฟโม” ร้อยละ ๓๖ และ Baby Boomers หรือคนที่อายุมากกว่า ๕๖ ปี มีเพียงร้อยละ ๑๖

ในขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทกับการสื่อสารและดำเนินชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ การรับข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ในระดับที่ “มากเกินไป” กลับส่งผลให้เกิดอีกหนึ่งพฤติกรรมที่สวนกระแส “โฟโม” ไปทั่วโลกนั่ นคือ “โจโม” หรือ JOMO ย่อมาจาก Joy of Missing Out หมายถึงผู้ที่ ต้องการพักจากการใช้สื่อออนไลน์และเริ่มมองหาความสุขจากสิ่งอื่นในชีวิต โดยใช้เวลาออฟไลน์อย่างเต็มที่กับกิจกรรมต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาเริ่มมีจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กลดลง ส่วนในประเทศไทยผู้ที่มีพฤติกรรม “โจโม” มีประมาณร้อยละ ๑๐ และส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม Gen X



อ้างอิง

https://positioningmag.com/1227809

https://new.camri.go.th/infographic/110

https://www.verywellmind.com/how-to-cope-with-fomo-4174664